การประเมินผู้อำนวยการเชี่ยวชาญ

วิธีประเมินผู้อำนวยการเชี่ยวชาญ
หลักเกณฑ์และคุณสมบัติ (ประกาศใช้ ๑ ตุลาคม ๒๕๕๑)

ดำรงตำแหน่งชำนาญการพิเศษไม่น้อยกว่า ๓ ปี
บริหารสถานศึกษาเต็มเวลา
ได้ปฏิบัติงานและมีผลงานในสถานศึกษาย้อนหลัง ๒ ปี
การขอรับการประเมิน
ขอรับการประเมินได้ปีละ ๑ ครั้ง และให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน ๖ เดือนแต่ไม่เกิน ๑ ปี
ผู้ขอขอด้วยตนเองหรือหน่วยงานเสนอขอให้
ผู้ เกษียณให้ยื่นก่อนเกษียณไม่น้อยกว่า ๖เดือน
ต้องผ่านการประเมิน ๓ ด้าน ดังนี้
๑. ด้านความประพฤติ วินัย คุณธรรม จริยธรรมและจรรยาบรรณวิชาชีพ
๒. ด้านคุณภาพการบริหารและการพัฒนาสถานศึกษา พิจารณาจาก

๒.๑ ประจักษ์พยานการบริหารสถานศึกษา
๒.๒ รายงานการประเมินตนเองอย่างน้อย ๑ ปีการศึกษา
๓. ด้านผลการบริหารและการพัฒนาสถานศึกษา พิจารณาจาก
๓.๑ ผลการประเมินคุณภาพภายใน,ผลการประเมินคุณภาพภายนอก, คะแนนผลการทดสอบระดับชาติ, ผลการทดสอบของแต่ละหน่วยงาน และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน อย่างน้อย ๒ ปีการศึกษา รวมทั้งความร่วมมือของชุมชน ความสำเร็จในการพัฒนาครู สถานศึกษาและชุมชน
๓.๒. รายงานการวิจัยสถาบัน
วิจัยสถานศึกษาของตนและนำผลไปใช้ในการบริหารสถานศึกษาแล้วประสบผลดี สามารถเป็นแบบอย่างได้

๓.๓ . นวัตกรรมและการรายงานพัฒนา
รายงานการพัฒนานวัตกรรมการบริหารสถานศึกษาซึ่งนำไปใช้บริหารสถานศึกษาแล้วประสบผลดีสามารถเป็นแบบอย่างได้

ผู้ที่จะได้รับการพิจารณาเลื่อนวิทยฐานะต้องมีผลการประเมินของคณะกรรมการเป็นเอกฉันท์ โดยมีผลการประเมินแต่ละด้านดังนี้
๑.. ด้านความประพฤติ วินัย คุณธรรม จริยธรรมและจรรยาบรรณวิชาชีพอยู่ในเกณฑ์ ผ่านและเป็นแบบอย่างที่ดี
๒. . ด้านคุณภาพการบริหารและการพัฒนาสถานศึกษา ไม่ต่ำกว่าร้อยละ ๗๕
๓. ด้านผลการบริหารและการพัฒนาสถานศึกษา ไม่ต่ำกว่าร้อยละ ๗๕
การพิจารณาอนุมัติผลการประเมินให้ก.ค.ศ.เป็นผู้อนุมัติสำหรับผู้ที่ยื่นคำขอในช่วงวันที่ ๑ ถึง ๓๐ เมษายนให้มีผลไม่ก่อนวันที่ ๑ พฤษภาคมของปีที่ขอหรือผู้ที่ยื่นคำขอในช่วงวันที่ ๑ ถึง ๓๑ ตุลาคมให้มีผลก่อนวันที่ ๑ พฤศจิกายนของปีที่ขอ
วิธีการประเมินด้วยวิธีปกติ
ให้ยื่นคำขอด้วยตนเองต่อหัวหน้าส่วนหรือผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่เพื่อตรวจสอบคุณสมบัติและรับรองแล้วส่งสำนักงานก.ค.ศ.ในช่วงวันที่๑ ถึง ๓๐เมษายนหรือ๑ ถึง ๓๑ตุลาคม
ให้หัวหน้าส่วนราชการหรือผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่ตรวจสอบคุณสมบัติและรับรองข้อมูลว่าเป็นผู้ที่เหมาะสมที่จะได้รับการประเมิน

ให้ผู้รับการประเมินส่งเอกสาร ดังนี้
ประจักษ์พยานการบริหารสถานศึกษา ๑ ชุด
รายงานการประเมินตนเองรวมทั้งการปฏิบัติหน้าที่อื่นที่ได้รับมอบหมายอย่างน้อย ๑ปีการศึกษา ๑ชุด
รายงานการวิจัยสถาบัน/การวิจัยสถานศึกษาของตนเองนำไปใช้ในการบริหารแล้วประสบผลดีเป็นแบบอย่างได้ อย่างน้อย ๑ชิ้น
นวัตกรรมและรายงานการพัฒนานวัตกรรมการบริหารสถานศึกษานำไปใช้แล้วประสบผลดีเป็นแบบอย่างได้ อย่างน้อย ๑ชุด
สำเนาทะเบียนประวัติข้าราชการ ก.พ.๗ รับรองโดยผู้บังคับบัญชา
สำนักงานเขตพื้นที่ตรวจสอบเอกสารและส่งสำนักงาน ก.ค.ศ.
ก.ค.ศ.ตั้งผู้ทรงคุณวุฒิจำนวน ๓ คน ต่อผู้ขอ ๑ราย เป็นกรรมการประเมิน
การประเมินให้ประเมินตามแบบที่ ก.ค.ศ. กำหนด
หากผ่านเกณฑ์การประเมินด้านที่ ๑แล้วให้ทำการประเมินด้านคุณภาพการบริหารและพัฒนาสถานศึกษาและด้านผลการบริหารและพัฒนาสถานศึกษาต่อไป
คณะกรรมการส่งผลการประเมินให้สำนักงาน ก.ค.ศ. พิจารณา
กรณีไม่อนุมัติสามารถส่งคำขอประเมินใหม่ได้ในปีต่อไป
กรณีอนุมัติให้เสนอผู้มีอำนาจตามมาตรา ๕๓ พิจารณาดำเนินการบรรจุและแต่งตั้งและรายงาน อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษาเพื่อทราบ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น